แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ forward mail แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ forward mail แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

forward Mail การตรวจเลือกทหารฯ

Fwm  การตรวจเลือกทหารฯ
การตรวจเลือกทหารฯ หรือ เกณฑทหาร ทํากันอยางไร
      ในเดือนเมษายน ต้ังแตวันที่ 1  ึ ถง 11 เมษายน ทางกองทัพบก   จะทําการตรวจเลือกทหารกองเกิน เขากองประจําการ
พรอมกันทุกเขต หรืออําเภอ ท่ัวประเทศผูที่เขาเกณฑทหาร   ตองมีอายุ 21   ป คือ   พ.ศ.เกิด บวก 21
ผลลัพธจะเปนปที่เกณฑทหาร เชน เกิดพ.ศ.2531 + 21 = 2552
หมายความวา ผูที่เกิด พ.ศ.2530 จะตองเขาเกณฑทหาร ในเดือนเมษายน 2551 หรืออีกพวกหนึ่ง คือ ผูที่มีอายุ 22  ึ ถง 29   ป
ที่ยังไมเคยเกณฑทหารมากอน
สําหรับป 2552 คือ ผูที่เกิด พ.ศ.2530  ึ ถง พ.ศ.2523 ทานลองตรวจดูซิวา ในหมายเรียกของทาน วันเกณฑทหารตรงกับวันใด
สถานที่ใด
กอนวันตรวจเลือก ถาทานไปอยูที่หางไกลบาน ก็ตองรีบกลับบาน อยาคิดวาเดินทางกลางคืน วันรุงขึ้นเปนวันเกณฑที่จริงมันก็
ทําไดแตเพื่อความปลอดภัย ควรจะกลับถึงบานกอน 1 วัน และ เตรียมเอกสาร ใหพรอมคือ
                            1. ใบสําคัญ สด.9
                            2. บัตรประจําตัวประชาชน
                            3. หมายเรียก สด.35
                            4. สําหรับผูที่เรียนจบ ม.6 หรือ ปวช. และตองการสมัครเปนทหาร (  รองขอเปนทหาร) ใหนําใบประกาศ
หรือระเบียนการศึกษา ไปดวย เพื่อยื่นคํารองขอสิทธิลดวันเปนทหาร
      ถาไมตองการสมัครก็ไมตองเอาไป สวนผูที่เรียนจบปริญญาตรีขึ้นไป ตองนําใบประกาศ หรือระเบียนการศึกษาไปใหได
ไมวาทานจะสมัครหรือไมสมัครเปนทหารก็ตามหลักฐานสําคัญมีเพียง 4อยางสําคัญที่สุดคือบัตรประชาชนอยาลืมเปนอันขาด
      เมื่อเตรียมพรอมเสร็จแลว ก็รวมใสไวในถุง หรือแฟมไวใหเรียบรอยทําใจ ใหสบาย อยากังวลเรื่องเปน หรือไมเปนทหาร
ใหมากนัก ไปถึงสถานที่ตรวจเลือกทหาร อยางชาไมเกิน 7 โมงเชา แตงตัวงายๆ ใสกางเกงขาส้ัน เสื้อคอกลม
รองเทาแตะดีที่สุด (เพราะวาเจาหนาที่ จะใหพับขากางเกงขึ้นเหนือเขา ถาใสกางเกงยีนส  ฟตๆ จะพับขากางเกงลําบาก)
      เมื่อไปถึงสถานที่ตรวจเลือกทหารแลว ก็หากินขาวเชาใหเรียบรอย เมื่อถึงเวลาประมาณ 7 โมงเชา เจาหนาที่จะประกาศ
ใหเขาแถวตรงปายชื่อตําบล ของตนเอง เคารพเพลงชาติจบ ประธานกรรมการตรวจเลือกทหาร (มียศพันโท)
ก็จะอานสารของผูบัญชาการทหารสูงสุดและกลาวใหโอวาทตอทหารกองเกิน
      หลังจากน้ัน กรรมการสัสดีจังหวัด ก็จะชี้แจงข้ันตอน การตรวจเลือก และชี้แจงสิทธิตางๆ เชน การขอสิทธิลดวันรับ
ราชการ เปนตน
หลังจากกรรมการสัสดีจังหวัด พูดจบ ก็แยกยายกันไป อยูตามรมไมคอยฟงเรียกชื่อเจาหนาที่จะเรียกชื่อผูที่มีอายุ 18   ป ึ ถง
20   ป ที่สมัครไวแลวกอน หลังจากน้ันก็เรียกเปนตําบล หรือแขวง จนครบทุกตําบล หรือแขวง
ถาใครไมมาในรอบแรก เจาหนาที่จะเรียกรอบที่สอง ถาไมมาในรอบที่สองอีก เจาหนาที่จะแทงวา "ขาด"
หรือ "ไมมารับหมายตามมาตรา 25" แลวแตกรณีซึ่งจะทําใหยุงยากตองฟองรองตอศาล เสียคาปรับ หรือถูกจําคุก
แลวแตศาลจะตัดสิน สําหรับผูที่ถูกแทงวา "ขาด" เมื่อศาลตัดสินแลว ในปตอไป จะถูกจับเปนทหารโดยไมตองจับสลาก ใบดํา
ใบแดง เพราะอยางนี้ ึ จงควรมาใหทันเขาเรียกชื่อในรอบที่สองเมื่อเจาหนาที่เรียกรอบสองเสร็จแลว ึ จงเรียกคนผอนผัน
สําหรับคนผอนผัน ที่ตองการสละสิทธิ์ผอนผันเขาตรวจเลือก หรือวา อยากเขาจับสลากใบดําใบแดง ก็ใหไปแจงตอเจาหนาที่
ก็จะใหเขียนคํารอง เสร็จแลวก็รอฟงเรียกชื่อ (ตามขอกําหนดของกฎกระทรวงฯเมื่อสละสิทธิ์การผอนผันและจับไดใบแดงจะลา
ึ ศกษาตอไมได)
      ยอนกลับมาถึงเจาหนาที่เรียกชื่อทาน ทานก็เตรียมถอดรองเทา ถุงเทา พับขากางเกงขึ้นเหนือเขา ถอดเสื้อ แลววิ่งไปที่
โตะเรียกชื่อ เจาหนาที่ที่โตะเรียกชื่อ (โตะที่ 1) จะตรวจสอบบัตรประชาชน เขียนเลขประจําตัวประชาชน ลงในสด.43
ใหทานพิมพ ิ น้วหัวแมมือขวา ลงในตนข้ัว สด.43 เขียนเลข สด.43 ลงในแขน หรือหนาอกของทาน ไวปองกันการผิดตัว
หลังจากน้ัน เขาจะบอกใหทานไปยังโตะ 2 ซึ่งเปนโตะที่หมอ(กรรมการแพทย)
และกรรมการสัสดีจังหวัด น่ังอยู หมอจะตรวจรางกาย โดยให ื ยนขึ้น ื ย่นแขนท้ังสองออกมาขางหนา เจาหนาที่ผูชวยของหมอ
ก็จะถามวา "ใครเปนโรค หรือพิการอะไรใหบอกหมอ" หลังจากน้ันหมอจะตรวจทาน และพิจารณารวมกับคณะกรรมการ
แบงทานวาจัดอยูในจําพวกใด ซึ่งกรรมการจะแบงคนออกเปน 4 จําพวก
      ถาทานเปนจําพวกที่ 1 หรือที่ชาวบานเรียกวา "ดี 1" เจาหนาที่จะใหทานไปยังโตะที่3 ซึ่งเปนโตะวัดสวนสูง และรอบอก
ถาทานไดสวนสูง ต้ังแต  160 ซม. และ รอบอก 76/79 ซม.ขึ้นไป ทานจะอยูใน กลุมที่ตองจับสลาก
ถาทานสูง 146 ซม. ึ ถง 159 ซม. และ รอบอก 76/79 ซม.ขึ้นไป จัดอยูใน กลุมตองปลอย ถาสูงต้ังแต 145 ซม.ลงมา
รอบอกจะใหญขนาด ใดก็ตาม หรือ รอบอกต้ังแต 75 ซม.ลงมา ไมวาจะสูงเทาใดก็ตาม จัดอยูใน กลุมไมไดขนาด
ถาทานเปนคนจําพวกที่ 2, 3 และ 4 เจาหนาที่จะใหไปรอที่โตะ ประธานกรรมการตรวจเลือกทหาร รอปลอยตัวไดโปรดจําไววา
ในการเกณฑทหารคร้ังนี้ทานจะตองไดรับ "ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเขากองประจําการ"
หรือ ที่เรียกส้ันๆ วา "ใบสด.43" ถาไดรับ ใบสด.43 แลวทานจึงจะกลับบานได ื ถอวา การเกณฑทหารของทาน ถูกตองสมบูรณ
แลว ถายังไมไดรับ ใบสด.43 อยาเพิ่งกลับบานเปนอันขาด เพราะถือวา การเกณฑทหารของทานยังไมสมบูรณ

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

forward mail ถังแก๊สน่าิรักๆที่ญี่ปุ่น


รูปภาพถังแก๊สน่ารักๆที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ญี่ปุ่น^^

จาก:forward mail น่า รัก

















ภาพน่ารักๆ จาก:forward mail น่า รัก

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

FWD :forward mail พวงกุญแจปลา

FWD :ฟอร์เวิร์ด เมล forward mail แปลกๆ

วันนี้เอารูปจากforward mailสุดแปลก เอาปลามาทำพวงกุญแจ พระเจ้า ทำไปได้ ไม่สงสารมันเลยรึไง


FWD :forward mail พวงกุญแจปลา
FWD :forward mail พวงกุญแจปลา

FWD :forward mail พวงกุญแจปลา

FWD :forward mail พวงกุญแจปลา


อยากมีไว้ใช่ กันบ้างไหมเนี่ย




วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

forward mail เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วัน

ผมไปเจอ forward mail ดีๆ  มาอยากให้ทุกคนได้อ่านกันมันคือความจริงของเรา

เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น

คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี
1 ปี เท่ากับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม...ไม่เลว 3,120 สัปดาห์

แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับแถวหลังเพื่อรอวันลาโลก

เปล่าเลย ผมไม่ได้กลัวตาย ตรงกันข้าม ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มันน้อยมาก
หากคำนวณในเชิงตัวเลข ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน เพลงอีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เคยดู ความรู้สึกในใจมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป

โอ๊ย...กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามันน้อยเกินไปจริงๆ
และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้น คือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี

แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่า บางคนไม่ได้มีเวลาอยู่บนพื้นโลกถึง 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ
อุแม่เจ้า... 2 คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึงสามพันแล้วเหรอเนี่ย

คิดแบบนี้แล้วต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้างๆ
เพราะนี่คือวันเสาร์ที่เราเหลือ...บนพื้นโลก


นี่เรากำลังอ่านอะไรบ้าบอ อยู่เนี่ยคิดมากไร้สาระ ฟุ้งซ่าน(รู้นะว่าพวกเธอคิดอยู่) ....
ไม่เลย นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งนั้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ นี่คือ เรื่องจริงเรื่องหนึ่ง
ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามมันไป งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 18 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,235 วัน และผ่านคืน
วันเสาร์มา ร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น...คำนวณเองบ้างซิว้อย!!!

เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลาที่(คาดว่าน่าจะ)เหลืออยู่ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะยังไงกับมันดี


แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า เงินเดือน

บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นเพียงว่า
เพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น แต่กลับปล่อยให้หัวใจตัวเอง
เหลือแต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน

บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวันๆ ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ คุณแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ...ไอ้บ้า!!!

และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม 'ฆ่าเวลา' ... ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องนั่งฆ่าเวลากันเลย
บอกตรงๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี


อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ


ลองคิดแบบนี้บ้าง...ใช่แล้ว...เราจะเกิดความเสียดายเพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านอย่างที่เราไม่ได้ทำ


ตายได้ยังไงหากฝันไม่สำเร็จ...ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำทุกอย่างก่อน ที่จะตาย...ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้


เคยสงสัยมั้ย... ทำไมเราถูกกำหนดไม่ให้รู้วันตายของตัวเองเพราะมันจะทำให้เราไม่แยแสทุกสิ่งทุกอย่าง
และตอบสนองความต้องการของตัวเอง ทั้งในทางดีและทางชั่ว

และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า เอาแบบว่าถ้าตาย
วันพรุ่งนี้ก็จะได้นอนตาหลับ เกิดโชคดีไม่ตายขึ้นมาเราก็จะได้กำไรในการอยู่ต่อเพื่อทำสิ่งดีที่ยังค้างคา


ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า...พรุ่งนี้ชั้นจะตายแล้ว
ทำในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามฝันของเราไปสุดโต่ง...ต้องรีบแล้ว...เดี๋ยวตายยนะ...เตือนแล้วไง

รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย...
เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ)ตายแล้ว

ใช้เวลา(ที่อาจจะ)สุดท้ายที่มีต่อกันไว้ กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดสุดท้ายของเรา
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่างน้อยๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอยให้สัมภาษณ์ยมบาล


คนข้างบ้านเดินหน้าแป้นแล้นมาบอกกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน ในมือมีซองสีชมพูพร้อม
การ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง แต่เมื่อกี๊นี้ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทร.มา
ปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย... แต่กว่าที่คนเป็นแม่จะได้รู้ข่าวร้าย ก็
ปาไป 5 วัน ซองในมือผมกลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้กลายเป็นพวงหรีดและทั้งหมดกลายเป็น
แรงบันดาลใจที่อยากจะบอกว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ

ชีวิตคนเราสุดท้ายกลับสู่ธรรมชาติ

forward mail เรื่องราว ความรักซึ่งๆ

forward mail ความ รัก

เรื่องราว ความรักซึ่งๆ
จาก FWM
ในวันสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส ฉันรีบไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต
เพื่อซื้อของขวัญที่ฉันไม่ได้ซื้อไว้แต่เนิ่น ๆ
เมื่อฉันเห็นผู้คนทั้งหมดที่นั่น ฉันก็เริ่มบ่นกับตัวเอง
ฉันคงต้องเสียเวลาเป็นชาติที่นี่แน่ ๆ ฉันควรไปที่อื่นดีกว่า
คริสต์มาสนี่ทำให้รู้สึกแออัด และน่ารำคาญขึ้นทุก ๆ ปีจริง ๆ
สิ่งที่ฉันอยากจะทำคือเอนตัวลงนอนแล้วก็หลับไป
และตื่นขึ้นมาเมื่อเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้วจริง ๆ
แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไปที่แผนกของเล่น และฉันก็เริ่มหัวเสียเกี่ยวกับราคาของมัน
และแปลกใจว่า เด็ก ๆ เนี่ยเล่นของเล่นที่แพงขนาดนี้เชียวหรือ
ขณะที่กำลังเดินดูของอยู่ในแผนกของเล่นนั้น
ฉันสังเกตเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง อายุประมาณ 5 ขวบ
กำลังอุ้มตุ๊กตาไว้แนบกับอก เขาค่อย ๆ ลูบผมของตุ๊กตานั้น และมองดูอย่างเศร้าสร้อย
ฉันสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้จะเอาตุ๊กตาไปให้ใครกัน
เด็กผู้ชายคนนั้นหันไปหาหญิงชราที่อยู่ข้าง ๆ
" คุณยายแน่ใจเหรอครับว่าผมมีเงินไม่พอ? "
หญิงชราตอบว่า " หลานก็รู้นี่ ว่าหลานมีเงินไม่พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้หรอก"
หลังจากนั้น หญิงชราก็บอกให้เขารออยู่ตรงนั้นประมาณ 5 นาที
ระหว่างที่เธอจะไปเดินดูรอบ ๆ แล้วเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เด็กชายยังคงอุ้มตุ๊กตาอยู่ในมือ ในที่สุดฉันก็เริ่มเดินเข้าไปหาเขา
ฉันถามเค้าว่าเค้าจะเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปให้ใคร
" มันเป็นตุ๊กตาที่น้องสาวของผมชอบที่สุดฮะ
และเธอก็อยากจะได้มันมากเป็นของขวัญวันคริสต์มาส
เธอมั่นใจมากว่าซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ "
ฉันบอกเค้าว่า ซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตานี้แก่น้องสาวของเขาแน่ ๆ
และก็ไม่ต้องกังวลหรอก แต่เขาตอบฉันด้วยท่าทางเศร้าสลดว่า
" ไม่หรอกฮะ ซานตาคลอสไม่สามารถเอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอในที่ ๆ เธออยู่ตอนนี้ได้
ผมจะเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้แม่ แม่จะได้เอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอเมื่อแม่ไปที่นั่น "
ดวงตาของเขาเศร้ามากขณะที่เขาพูดต่อไป
" น้องสาวของผมไปอยู่บนสวรรค์
พ่อบอกว่าแม่ก็จะไปเหมือนกันในเร็ว ๆ นี้
ผมก็เลยคิดว่าแม่น่าจะเอามันไปให้น้องสาวของผมได้ "
หัวใจของฉันเกือบจะหยุดเต้น เด็กชายเงยหน้ามองฉันแล้วพูดว่า
" ผมบอกพ่อให้บอกแม่ว่าอย่าพึงไป
ให้รอผมจนกว่าผมจะกลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตฮะ "
แล้วเขาก็หยิบรูปที่น่ารักมากของเขาซึ่งกำลังหัวเราะ ให้ฉันดู
แล้วก็บอกว่า " ผมอยากให้แม่เอารูปนี้ไปด้วยฮะเธอจะได้ไม่ลืมผม
ผมรักแม่ฮะ และผมก็หวังว่าเธอจะไม่ต้องจากผมไป
แต่พ่อบอกว่าเธอต้องไปอยู่กับน้องสาวของผม "
แล้วเขาก็จ้องมองตุ๊กตาอีกครั้งอย่าอาลัย
ฉันรีบคว้ากระเป๋าตังออกมาอย่างรวดเร็ว หยิบธนบัตรออกมา 2-3ใบ แล้วพูดว่า
ทำไมเราไม่ลองตรวจดูอีกที เผื่อว่าเราจะมีเงินพอ
" ตกลงฮะ " เขาพูด " ผมหวังว่าผมจะมีเงินพอนะฮะ "
ฉันแอบใส่เงินของฉันลงในกระเป๋าตังของเขาโดยไม่ให้เขาเห็น(ไม่รู้ทำไง)
แล้วเขาก็เริ่มนับมัน เด็กชายพูด " ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเงินให้ผมฮะ "
เขามองฉัน แล้วพูดเสริมว่า " ผมอธิษฐานกับพระเจ้าก่อนนอนเมื่อวานฮะ
ว่าขอให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้เพื่อแม่จะได้เอาไปให้น้องสาวของผมฮะ
แล้วพระองค์ก็ได้ยิน ความจริงผมอยากได้เงินที่จะซื้อกุหลาบสีขาวให้แม่ด้วยฮะ
แต่ผมไม่กล้าขอมากเกินไป แต่พระองค์ก็ให้เงินผมมากพอที่จะซื้อทั้งตุ๊กตาและกุ หลาบ
แม่ของผมชอบกุหลาบขาวฮะ "
ฉันเดินออกมากับรถเข็นของฉัน
ฉันไม่สามารถเอาภาพของเด็กชายคนนั้นออกจากจิตใจฉันได ้
หลังจากนั้นฉันก็จำข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 2 วันก่อนได้
มันบอกว่าคนขับรถบรรทุกที่เมาเหล้าคนหนึ่งขับรถชนรถอีกคันหนึ่งที่มีหญิงสาว
คนหนึ่งกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในรถเด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตทันที
แต่แม่ของเธออยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส
ครอบครัวของพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจ
เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถดีขึ้นไปกว่าขั้นโคม่าได ้
ครอบครัวนี้จะเป็นของเด็กชายคนนั้นรึเปล่านะ
2 วันหลังจากได้พบกับเด็กชายคนนั้น
ฉันอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า หญิงสาวคนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว
ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ได้ที่จะไปซื้อกุหลาบช่อหนึ่ง
แล้วไปที่ซึ่งร่างของหญิงคนนั้นได้ถูกเปิดให้คนได้ดู และอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝัง
เธออยู่ในนั้นในโลงศพของเธอ ในมือมีดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่งกับรูปถ่ายของเด็กชายคนนั้น
และมีตุ๊กตาวางอยู่บนหน้าอก
ฉันออกไปข้างนอกทั้งน้ำตา รู้สึกว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ความรักที่เด็กผู้ชายคนนี้มีให้แม่ และน้องสาวของเขานั้นจะยังคงอยู่ยืนยาว
สุดแก่การจินตนาการ แต่เพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น
คนดื่มเหล้าคนหนึ่งก็ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา จาก forward mail ความ รัก